นักล่าอสูรสาวเวทมนตร์ 2.1 ผลงานโดจิน Gokuraku Chou San no Kata | Paradise Butterfly Third Form (Kimetsu no Yaiba) โดย Puripuri JET (TOPGUN) ถ่ายทอดมิติใหม่ของเรื่องราวในจักรวาล Kimetsu no Yaiba ได้อย่างน่าหลงใหลและแฝงกลิ่นอายความลึกลับของความสัมพันธ์ระหว่างนักล่าอสูรและสาวน้อยผู้ใช้เวทมนตร์ เรื่องราวดำเนินไปในบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างความเข้มข้นและความอ่อนโยน อ่านมังงะ 18 ความงดงามของศิลปะแนวแฟนตาซีถูกถ่ายทอดผ่านโทนสีที่นุ่มนวล แต่ซ่อนพลังรุนแรงของอารมณ์ภายในไว้ทุกฉาก ทุกภาพใน Paradise Butterfly Third Form เปรียบเสมือนการเต้นระบำของผีเสื้อที่ร่ายมนต์สะกดสายตา ด้วยลายเส้นอันประณีตของ Puripuri JET ที่ถ่ายทอดความงดงามและความเจ็บปวดในเวลาเดียวกัน นี่คือผลงานที่ไม่ได้เน้นเพียงภาพความงาม แต่ยังตีแผ่สัญลักษณ์ของ “สวรรค์และนรกในหัวใจของนักล่าอสูร” ได้อย่างมีชั้นเชิง
นักล่าอสูรสาวเวทมนตร์ 2.1 ความหมายแฝงของ Paradise Butterfly Third Form และตัวตนที่แท้จริงของนักล่าอสูร
ใน Paradise Butterfly Third Form (Kimetsu no Yaiba) Puripuri JET ได้ใช้แนวคิด “ผีเสื้อ” เป็นสัญลักษณ์ของการแปรเปลี่ยน การฟื้นคืน และการยอมรับในชะตากรรม ผีเสื้อในที่นี้มิได้เป็นเพียงสิ่งสวยงาม การ์ตูน 18 แต่ยังสื่อถึงจิตวิญญาณของนักล่าอสูรที่ผ่านความสูญเสียและบาดแผลทางใจ จนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่กึ่งกลางระหว่างความเป็นและความตาย โดจินเรื่องนี้นำเสนอความสัมพันธ์ระหว่าง “นักล่าอสูร” และ “สาวน้อยเวทมนตร์” ในแง่มุมของการเติมเต็มกันและกัน ทั้งสองต่างเป็นตัวแทนของพลังที่ขัดแย้ง พลังแห่งการปกป้องและพลังแห่งการปลดปล่อย ภาพและบทพูดในเรื่องแสดงให้เห็นถึงอารมณ์ที่ละเอียดอ่อน ราวกับการร่ายรำของผีเสื้อในแสงจันทร์ Gokuraku Chou San no Kata จึงไม่ใช่เพียงการต่อสู้ทางกาย โดจิน แปล แต่ยังเป็นการต่อสู้ทางจิตวิญญาณ ที่ทำให้ผู้อ่านสัมผัสได้ถึง “สวรรค์ในความทุกข์” ของตัวละครทั้งสอง