
รถไฟแถวนี้มันเถื่อน ถ้าไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้ 2 ในตอนที่สองของ โดจิ Chijoku no Chikan Densha Ch.2 โดย Crowe จาก SugarBerrySyrup งานภาพและโทนอารมณ์ถูกยกระดับให้เข้มข้นยิ่งขึ้น บรรยากาศในเรื่องกลายเป็น “สนามทดลองทางอารมณ์” ที่แสดงถึงความเปราะบางของมนุษย์เมื่อถูกกดดันในพื้นที่จำกัด รถไฟในเรื่องนี้ไม่ใช่เพียงฉากหลังอีกต่อไป แต่เป็นสัญลักษณ์ของสังคมที่ไม่อาจหยุดได้ ทุกคนต้องเดินหน้า แม้จะเต็มไปด้วยความกลัวหรือสิ้นหวัง Crowe ใช้เส้นภาพที่แข็งแรงและเฉดเงาที่หนักกว่าในตอนแรก เพื่อสร้างความรู้สึกอึดอัดและหน่วงทางสายตา การเคลื่อนไหวของตัวละครถูกวาดให้ช้าและเต็มไปด้วยน้ำหนัก แสดงให้เห็นถึงความเหนื่อยล้าทางจิตใจ ตัวเอกเริ่มตั้งคำถามกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว และนั่นคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ Chijoku no Chikan Densha Ch.2 ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องราวแนวระทึกขวัญเท่านั้น โดจิน th แต่ยังสะท้อนด้านมืดของมนุษย์ในสังคมปัจจุบัน ที่ต้องอยู่รอดท่ามกลางความกดดันโดยไม่รู้ว่าจะหลุดพ้นได้อย่างไร
รถไฟแถวนี้มันเถื่อน ถ้าไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้ 2 ความเข้มข้นของความกลัวและสัญชาตญาณ
สิ่งที่น่าสนใจใน Chijoku no Chikan Densha Ch.2 คือการใช้ศิลปะในการเล่าเรื่องแทนคำพูด Crowe ใช้เงาและมุมกล้องเพื่อควบคุมอารมณ์ของผู้อ่านอย่างแนบเนียน ฉากภายในรถไฟถูกจัดองค์ประกอบให้ดูคับแคบและซ้ำซาก ซึ่งเป็นการสื่อเชิงสัญลักษณ์ถึง “วงจรชีวิต” ที่ไม่มีวันจบของตัวละคร การใช้เส้นทึบและพื้นผิวที่หยาบเพิ่มน้ำหนักให้กับอารมณ์ความกลัวและความสิ้นหวัง การ์ตูน 18 แต่ก็ยังแฝงความงดงามในเชิงศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์ของ Crowe ผู้เขียนยังคงเล่นกับ “จิตใต้สำนึก” ของตัวละคร — ระหว่างสิ่งที่พวกเขากลัว กับสิ่งที่พวกเขาอยากยอมรับ ผลลัพธ์คือเรื่องราวที่ทำให้ผู้อ่านต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่าความกลัวในใจแท้จริงแล้วมาจากอะไร และสังคมที่เรายืนอยู่ทุกวันนี้ต่างจากรถไฟขบวนนั้นจริงหรือไม่ Chijoku no Chikan Densha Ch.2 จึงไม่ใช่เพียงโดจิน แต่คือผลงานศิลปะที่สะท้อนความจริงอันโหดร้ายของมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้ง

