Sidonia no Kishi (Knights of Sidoni) อนิเมะซับไทย อัศวินอวกาศ (ภาค1-2) แนะนําอนิเมะสนุกๆ ดูอนิเมะมาสเตอร์ Knights of Sidoni ตอนที่ 1-24 ดู anime ใหม่ ดูการ์ตูนฟรีอนิเมะ อัศวินอวกาศ (ภาค1-2) ซับไทย ครบทุกตอน ดูฟรีเต็มเรื่อง โดยเนื้อเรื่อง อัศวินอวกาศ (ภาค1-2) Knights of Sidoni จะมาพร้อมกับความสนุกสนานและความเร้าใจระดับไหน แฟนคลับอนิเมะซับไทยทุกท่าน ต้องไม่พลาด ทุกเรื่อง ทุกตอนใหม่ล่าสุดได้เลยที่นี่ที่เดียว anime119
Sidonia no Kishi เรื่องย่อ อัศวินอวกาศ (ภาค1-2)
สปอยอนิเมะมันส์ ๆ ดูการ์ตูนฟรีอนิเมะ การ์ตูนออนไลน์สนุก ดูการ์ตูนอนิเมะฟรี ดูอนิเมะhd อนิเมะใหม่ออนไลน์ ดูเมะออนไลน์ อัศวินอวกาศ (ภาค1-2) โดยจะเล่าไปถึง เมื่อพันปีที่ผ่านมา “กาวน่า” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งมีชีวิตที่เดินทางมาจากต่างดาวและไม่สามารถพูดคุย หรือ สื่อสารกับใครได้เข้ามาบุกโจมตีโลก จนทำให้มนุษยชาติต้องเร่งเอาชีวิตรอดและอพยพผู้คนด้วยยานเมล็ดพันธุ์อย่างเร่งด่วน เพื่อรักษาชีวิตของตนเองและรักษาเผ่าพันธุ์ ขณะเดียวกันนั้น “ทานิคาเสะ นางาเตะ” มนุษย์ที่เติบโตในชั้นใต้ดินยานเมล็ดพันธุ์ “ซิโดเนีย” ได้เดินทางมาถึงพื้นผิวโลกและดูเหมือนว่าการเดินทางในครั้งนี้จะทำให้เขาได้พบกับ “ซึกุโมริ” เขาเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญและมีทักษะในการควบคุมหุ่นรบโมริโตะรุ่นเก่า ก่อนที่ทั้งสองคนจะร่วมมือกันออกทำการรบและต่อสู้กับกองทัพผู้รุกราน เพื่อปกป้องโลกและความสงบสุขของผู้คน
ดูอนิเมะเรื่อง Knights of Sidoni อัศวินอวกาศ (ภาค1-2) ตอนที่ 1-12 ซับไทย
สรุปเรื่องราว Knights of Sidoni Season 1-2
หลังจากที่ ทานิคาเสะ นางาเตะ เดินทางมาถึงพื้นผิวโลกได้อย่างปลอดภัยและมีโอกาสได้พบกับเชียวชาญในการควบคุมหุ่นรบโมริโตะรุ่นเก่าอย่าง ซึกุโมริ Knights of Sidoni Season 1-2 พวกเขาทั้งสองคนพูดถึงปัญหาอบะภัยอันตรายที่ชาวมนุษยชาติต้องเผชิญและถ้าหากปล่อยเอาไว้นานกว่านี้ ไม่น่าว่ามนุษยชาติทุกคนจะต้องพบเจอกับจุดจบที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ เพราะฉะนั้นแล้วเพื่อความอยู่รอดของผู้คนและรักษาเผ่าพันธ์เอาไว้ ทานิคาเสะ นางาเตะ และ ซึกุโมริ ได้ขับหุ่นโมริโตะออกไปต่อสู้กับกาวน่า เพื่อหวังจะยุติสงครามครั้งนี้โดยเร็วที่สุด การ์ตูนอนิเมะใหม่ล่าสุด ดูอนิเมะพระเอกเก่ง อนิเมะซับไทย ดูการ์ตูนอนิเมะออนไลน์ ดูอนิเมะฟรี 24 ชั่วโมง
การผสมผสานไซไฟกับสยองขวัญและอิทธิพลที่ขยายออกไปสู่สื่อร่วมสมัย
Knights of Sidonia จัดว่าเป็นงานชั้นบุกเบิกของอนิเมะสามมิติเต็มรูปแบบ ยุคที่อนิเมเตอร์ญี่ปุ่นยังลังเลต่อการใช้โมเดลคอมพิวเตอร์ Nihei Tsutomu และทีม Polygon Pictures กลับทลายกำแพงนั้นด้วยภาพเคลื่อนไหวลื่นไหลและโครงสร้างฉากที่เปรียบเสมือนมหาวิหารลอยฟ้า ทุกเสาเหล็กช่องทางเดินยาวเป็นกิโลเมตรสื่อถึงความโดดเดี่ยวอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์ ในขณะเดียวกันงานออกแบบ Gauna อาศัยเส้นลายหมึกดำสดของมังงะต้นฉบับผสมแอนิเมชันสามมิติเพื่อสร้างรูปร่างกึ่งเนื้อเยื่อกึ่งเรขาคณิต เมื่อร่างสีซีดซ้อนทับกับหมอกอวกาศผู้ชมจะรู้สึกได้ถึงชั้นบรรยากาศสยองขวัญที่คล้าย Lovecraftian ทั้งที่ไม่มีเลือดสาดกระจายจอ ความไม่รู้ต้นกำเนิดศัตรูจึงก่อความกลัวแบบบ่มช้า หนึ่งวินาทีก่อนสัญญาณเตือนภัยดังสภาพความนิ่งสงบกลับเหยียบย่ำประสาทตาแรงยิ่งกว่าฉากหวานขมใด ๆ งานภาพจึงไม่เพียงเป็นเทคนิคแต่คือเครื่องดนตรีบรรเลงอารมณ์ หลังออกฉาย Knights of Sidonia ถูกซื้อสิทธิ์สตรีมทั่วโลกทำให้คำว่า อัศวินอวกาศ กลายเป็นจุดตั้งต้นสนทนาระหว่างคออนิเมะและนักวิจารณ์ไซไฟยุโรปยุคใหม่ ผลพวงคือกระแสผลักดันให้สตูดิโอญี่ปุ่นหันมาใช้ 3DCG อย่างจริงจังอีกหลายเรื่องทั้ง Ajin และ Blame ซึ่งต่างสืบทอดลายเส้นหนักแน่นของ Nihei ถัดจากงานภาพ องค์ประกอบสยองขวัญที่แทรกซึมในโครงเรื่องยังจุดไฟให้อนิเมะไซไฟร่วมสมัยกล้าสำรวจธีมปรัชญาเข้มข้นมากขึ้น ตัวอย่างเช่นการตั้งคำถามเรื่องชีววิทยาสังเคราะห์ใน Land of the Lustrous หรือการวิเคราะห์ความหมายของวิลใน Vivy Fluorite Eye’s Song การที่ Sidonia เลือกเล่าเรื่องผ่านมุมมองฮีโร่เดี่ยว แต่เปิดให้เห็นมิติทางสังคมหลายชั้นยังกลายเป็นแม่แบบให้ผู้กำกับรุ่นหลังประยุกต์ใส่ซีรีส์ใหม่ ๆ บทสนทนาของคอนเกรซแฟนทั่วโลกซึ่งถกเถียงตั้งแต่จริยธรรมโคลนนิงไปจนถึงดีไซน์เกราะ Guardian ทำให้ Sidonia ไม่ได้หยุดแค่บนจอภาพแต่เข้าไปติดอยู่ในดีเอ็นเอวัฒนธรรมป็อปยุคดิจิทัล Knights of Sidonia จึงไม่ได้เป็นเพียงอนิเมะเกี่ยวกับการต่อสู้กลางอวกาศ แต่เป็นหมุดหมายที่ประกาศว่าวิสัยทัศน์ไซไฟญี่ปุ่นพร้อมขยายขอบเขตจินตนาการสู่ระดับสากลอย่างเต็มภาคภูมิ
นครลอยฟ้า Sidonia และบันทึกการเอาชีวิตรอดของมนุษยชาติ
เมื่อดวงดาวบ้านเกิดถูกกลืนหายไปโดยสิ่งมีชีวิตประหลาดที่ไม่รู้จักจุดกำเนิดเหล่าผู้รอดชีวิตเพียงหยิบมือจึงต้องลี้ภัยขึ้นสู่ยานยักษ์ Sidonia การสร้างสังคมมนุษย์ใหม่กลางอวกาศไม่ใช่เพียงการอพยพแต่คือภารกิจสืบทอดเผ่าพันธุ์ เส้นทางหลายร้อยปีเต็มไปด้วยการทดลองทางพันธุกรรมการดัดแปลงร่างกายและการจัดลำดับชนชั้นเพื่อให้ระบบพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน Knights of Sidonia จึงเล่าประวัติศาสตร์ย่อส่วนของมนุษยชาติที่ถูกบีบให้ยืดหยุ่นเหนือขอบเขตศีลธรรมเดิม เช่น การทำร่างให้สังเคราะห์พลังงานแสงเพื่อลดการบริโภคทรัพยากรหรือการสร้างเพศที่สามเพื่อรักษาสมดุลประชากร ทุกการตัดสินใจทิ้งคราบเลือดและรอยน้ำตาไว้ในตำนานอัศวินอวกาศ แต่อีกด้านหนึ่งมันคือภาพสะท้อนว่าความหวังสามารถผลิบานได้แม้ในสุญญากาศที่ไร้ชีวิต ทุกครั้งที่ยานพลิกเลี่ยงเศษอุกกาบาตหรือการลอบโจมตีผู้คนจะเห็นยอดหอคอยเรืองแสงราวสัญญาณไฟว่าโลกใบใหม่ยังรอวันได้กลับสู่ดวงดาวที่ปลอดภัย ทว่าความอยู่รอดอันยืดยาวก็ก่อให้เกิดชนชั้นปกครองนิรันดร์ที่ยืดอายุผ่านการโคลนนิง สมาชิกสภาอมตะหรือ Immortal Committee คอยอนุมัติทุกโครงการตั้งแต่การสร้างคลื่นแรงโน้มถ่วงไปจนถึงการบ่มนิสัยนักบินรุ่นใหม่ พวกเขาเชื่อว่าตนมองการณ์ไกลที่สุดแต่ในสายตาของแรงงานเหมืองน้ำแข็งหรือชาวไร่สาหร่ายการสั่งการเหล่านั้นไม่ต่างจากกฎเหล็กที่ถักทออนาคตเลือดเนื้อไว้ในห้องทดลอง จุดปะทะระหว่างอุดมคติโดยรวมกับสิทธิส่วนบุคคลจึงปะทุออกมาเรื่อย ๆ ผ่านเรื่องราวของ Tanikaze Nagate เด็กหนุ่มที่ถือกำเนิดนอกระบบคัดเลือกและกลายเป็นนักบินอัจฉริยะ ด้วยทักษะการควบคุม Guardian ที่สืบทอดมาจากรุ่นปู่เขาท้าทายโครงสร้างอำนาจเก่า ชัยชนะของ Nagate ต่อฝูง Gauna ถาโถมจิตวิญญาณใหม่เข้าสู่นคร Sidonia เขาพิสูจน์ว่าความเป็นคนธรรมดาก็สามารถผลักดันประวัติศาสตร์ได้หากไม่ยอมจำนนต่อเงื่อนไขใด ๆ เส้นทางชีวิตที่เริ่มต้นด้วยความโดดเดี่ยวจึงกลายเป็นจุดศูนย์รวมความหวังและรากฐานเรื่องเล่าของ Knights of Sidonia